กรมข้าว ชูเทคนิค 4 ป. ดันมาตรการ ‘3 เพิ่ม 3 ลด’ ยกระดับทำนาอย่างยั่งยืนและลดโลกร้อน (Thai Rice NAMA)
วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 นายกฤษ อุตตมะเวทิน รองอธิบดีกรมการข้าว ร่วมเปิดงานสื่อมวลสัญจรและพิธีลงนามสัญญาเงินทุนสนับสนุน “เทคโนโลยีการทำนา และมาตรการสนับสนุนทางการเงินเพื่อการทำนาที่ยั่งยืนและลดโลกร้อน” Thai Rice NAMA โดยมีนายไรน์โฮลด์ เอลเกส ผู้อำนวยการองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย และมาเลเซีย พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายพงษ์พันธ์ จงรักษ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นาย เฉลิมชาติ ฤาไชยคาม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมพิธี ณ ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี
นายกฤต อุตตมะเวทิน รองอธิบดีกรมการข้าวกล่าวว่า หลักสำคัญของการทำนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย เทคโนโลยี 4 ป. คือ ป.ที่หนึ่ง ปรับระดับพื้นที่นาด้วยระบบเลเซอร์ให้ราบเรียบสม่ำเสมอทั่วทั้งแปลงนา ช่วยให้ชาวนาสามารถเพิ่มผลผลิต คุณภาพ และกำไรที่ได้จากการผลิตข้าว ป.ที่สอง เปียกสลับแห้ง คือการจัดการน้ำที่จะช่วยลดการใช้น้ำในแปลงนา ป.ที่สาม ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน คือการใช้ปุ๋ยตามคำแนะนำเพื่อคุณภาพและปริมาณผลผลิตที่ดี และ ป.สุดท้าย แปรสภาพฟางข้าวและตอซังข้าวแบบปลอดการเผา และลดภาวะโลกร้อนจากการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวต่อไปว่ากรมการข้าวมุ่งดำเนินงานส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้ผ่านกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ ศูนย์ข้าวชุมชน และกลุ่มสหกรณ์การเกษตร ในพื้นที่ ๖ จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และปทุมธานี เพื่อพัฒนาเป็นต้นแบบในการส่งต่อความรู้สู่เกษตรกรรายย่อยอย่างครอบคลุมและทั่วถึงในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่ง จังหวัดปทุมธานี เป็นหนึ่งใน 6 จังหวัด ตามเป้าหมายของโครงการฯ และเกษตรกรที่เข้านำเทคโนโลยีการปรับระดับพื้นที่นาด้วยระบบเลเซอร์ในพื้นที่ทำนา เป็นการแสวงหาแนวทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวในภาวะความแปรปรวนของฤดูกาลและสภาพภูมิอากาศได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งกรมการข้าวมีความมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้กับชาวนาไทยในพื้นที่ดำเนินโครงการฯ ตามมาตรการ ‘3 เพิ่ม 3 ลด’ คือ เพิ่มผลผลิตข้าว เพิ่มคุณภาพข้าว เพิ่มรายได้ลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้น้ำ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและภาวะโลกร้อน พร้อมทั้งขับเคลื่อนให้ชาวนาไทยและข้าวไทยก้าวไปสู่สากลได้อย่าง
เต็มภาคภูมิ
“ปัจจุบันภาคการเกษตรมีเศษฟางที่เหลือจากการเก็บเกี่ยวเป็นปริมาณมาก อย่างไรก็ตามเกษตรกรส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ ความเข้าใจในการบริหารจัดการฟางข้าวและตอซังเพื่อเป็นทางเลือกในการเพิ่มรายได้และผลผลิตทางการเกษตร ส่งผลให้ชาวนาส่วนใหญ่ตัดสินใจเผาฟางข้าวและตอซัง บ้างก็เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการปลูกพืชหมุนเวียนต่าง ๆ จนทำให้ฟางถูกเผาทิ้งอย่างน่าเสียดาย ซึ่งการเผาฟางอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม จนกลายเป็นมลภาวะ และก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ที่ส่งผลให้สภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง” นายกฤตกล่าว
สำหรับโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดภาวะโลกร้อนจากการทำนาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ไทย ไรซ์ นามา) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) โดยผู้แทนจากโครงการฯ พร้อมด้วยผู้บริหารจาก ธ.ก.ส. และ GIZ ลงนามข้อตกลงร่วมกันเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนมาตรการสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวรายย่อยสามารถเข้าถึงเทคนิคการทำนาลดโลกร้อน อย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย