ประมงแจง เงินค่าปรับเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรประมงที่ยั่งยืน

293

กรมประมงแจง “เจตนารมณ์…เงินค่าปรับที่ได้จากผู้กระทำผิดกฎหมายประมง” เพื่อนำมาบริหารจัดการทรัพยากรประมงที่ยั่งยืน – เพิ่มประสิทธิภาพชาวประมง

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา กรมประมงมีการออกระเบียบว่าด้วยการจ่ายเงินสินบน เงินรางวัล และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน พ.ศ.2566 เพื่อกำหนดแนวทางการเบิกจ่ายเงินสินบนรางวัลตามข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยการหักเงินค่าปรับตามพระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตต์การประมงไทย พ.ศ. ๒๔๘๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ก่อนนำส่งคลัง พ.ศ. ๒๕๖๕ ข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยการหักเงินค่าปรับตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ก่อนนำส่งคลัง พ.ศ. ๒๕๖๕ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินสินบน เงินรางวัล และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตต์การประมงไทย พ.ศ. ๒๔๘๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๕ และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินสินบน เงินรางวัล และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๕ ซึ่งแต่เดิมมีการจ่ายเงินสินบนรางวัล มีระเบียบการจ่ายเงินสินบน เงินรางวัล และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน มาตั้งแต่สมัยใช้พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 แต่เมื่อมีการออกพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 จึงจำเป็นต้องออกระเบียบการเบิกจ่ายฉบับใหม่ ซึ่งการหักเงินสินบนรางวัลเป็นหลักการดำเนินการทั่วไป ไม่ได้มีเพียงเฉพาะกฎหมายประมงเท่านั้น กฎหมายในความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่นเกือบทุกฉบับก็มีการหักเงินสินบนรางวัลเช่นเดียวกัน

โดยระเบียบดังกล่าวมีการกำหนดแนวทางการเบิกจ่ายเงินรางวัลที่ได้มาจากค่าปรับผู้กระทำผิดตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งไม่เกินจำนวนตามที่กระทรวงการคลังกำหนดและหักได้เพียงบางมาตราเท่านั้นขึ้นอยู่กับความหนักเบาของการกระทำความผิดที่มีผลกระทบต่อทรัพยากรประมง โดยกระบวนการยุติธรรมทางอาญาต้องถึงที่สุดแล้ว หรือผู้ถูกกล่าวหายินยอมชำระค่าปรับตามที่มีการเปรียบเทียบ และเงินที่ได้ให้นำไปจ่ายเป็นส่วนๆ ดังนี้

  1. นำไปจ่ายเป็นเงินสินบน จำนวน 1 ส่วน แก่พลเมืองดีผู้แจ้งความนำจับ : ผู้ที่แจ้งเบาะแสการกระทำผิดให้กับทางราชการจนเป็นผลให้สามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้ โดยต้องไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจจับกุมหรือมีอำนาจดำเนินการตามกฎหมายในเรื่องนั้น ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นแรงจูงใจในการช่วยสอดส่องแทนราชการเพื่อไม่ให้เกิดการกระทำความผิดทางการประมง
  2. นำเข้าบัญชีเงินฝากกรมประมง จำนวน 1 ส่วน เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ทางการประมง เช่น โครงการยกระดับไต๋เรือเพื่อการจัดการประมงทะเลที่ยั่งยืน โครงการจัดฝึกอบรมให้แก่พี่น้องชาวประมง โครงการอาสาสมัครอนุรักษ์ทางการประมง โครงการพัฒนาทางการประมง ฯลฯ เพื่อประโยชน์อันจะเกิดแก่สาธารณะในการขับเคลื่อนภาคการประมง
  3. นำไปจ่ายเป็นเงินรางวัล 2 ส่วน ให้แก่ ผู้มีส่วนร่วมในการให้ได้มาของเงินค่าปรับ : เจ้าหน้าที่ผู้ร่วมจับกุม เจ้าหน้าที่ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบในกระบวนการดำเนินการรวบรวมหลักฐาน และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่แต่งตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2558 รวมถึงพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจตามประมวลกฎหมายอาญา หรือ แต่งตั้งขึ้นโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานซึ่งอาจต้องเสี่ยงต่ออันตราย

อย่างไรก็ตาม วัตถุประสงค์หลักของการดำเนินการในครั้งนี้ มิได้มีเป้าประสงค์ที่จะมุ่งการกล่าวโทษกับพี่น้องชาวประมง แต่เพื่อปฏิบัติตามกรอบของกฎหมายอันจะนำไปสู่ความยั่งยืนของทรัพยากรเท่านั้น และเพื่อให้เกิดความมั่นใจสำหรับพี่น้องชาวประมง กรมประมงจึงได้ชะลอ และนำเรื่องนี้มาทบทวนเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับพี่น้องชาวประมง เพื่อวางกรอบแนวทางในการพัฒนาภาคการประมงที่ชัดเจนต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการทางกฎหมายนั้น กรมประมงได้เน้นย้ำการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้ยึดหลัก 3 ป. คือ การป้องกัน การป้องปราม และการปราบปราม พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเป็นสำคัญด้วย ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ … อธิบดีฯ กล่าว

กรมประมง ข่าว