กรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดรับซื้อข้าวโพด สหกรณ์การเกษตรนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี
วันที่ 22 มีนาคม 2566 นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วย พร้อมด้วย นางวราลักษณ์ กุลบวรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกรม เขตตรวจราชการที่ 13 และ 14 นางอัญชลี ศรีหามาตย์ สหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดรับซื้อข้าวโพด ตามโครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดพืชหลังนา ปี 2565/2566 ของสหกรณ์การเกษตรนาเยีย จำกัด โดยมี นายมาลัย พวงเพชร ประธานกรรมการ นายไพวัลย์ คำหาญ ผู้จัดการสหกรณ์ คณะกรรมการดำเนินการ และสมาชิกสหกรณ์ ให้การต้อนรับ ณ สหกรณ์การเกษตรนาเยีย จำกัด อำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี
ทางด้าน นายสมาน สมนึก ซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรนาเยีย จำกัด ได้ปลูกข้าวโพดหลังนาบนพื้นที่ 6 ไร่ และได้นำผลผลิตข้าวโพดหลังนามาขายให้กับสหกรณ์ ในปริมาณ 11.7 ตัน โดยราคารับซื้อในวันนี้อยู่ที่ 8.7 บาท/กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 101,790 บาท เฉลี่ยไร่ละ 16,653 บาท โดยข้าวโพดของนายสมาน ความชื้นอยู่ที่ 32% ราคารับซื้ออยู่ที่ 8.31 บาท แต่เนื่องจากนายสมานเป็นสมาชิกสหกรณ์ จึงได้ราคารับซื้ออยู่ที่ 8.7 บาท ซึ่งจากการคิดคำนวนต้นทุนในการปลูกข้าวโพดหลังนา จะอยู่ที่ 4,280 บาท/ไร่ โดยไม่นับรวมค่าแรงตนเอง ทำให้นายสมาน ได้กำไรจากการขายผลผลิตข้าวโพดหลังนา จำนวน 12,373 บาท/ไร่ ส่งผลให้นายสมาน มีรายได้เสริมจากการปลูกข้าวโพดภายหลังจากการทำนา กว่า 70,000 บาท
โอกาสนี้ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ให้คำแนะนำ แนวทางในเรื่องการรวบรวมผลผลิต การพัฒนาอาชีพให้กับสมาชิก ทั้งการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหวานในพื้นที่แปลงสมาชิก การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ และการเลี้ยงโคเนื้อเพื่อสร้างอาชีพ พร้อมทั้งวางแผนการผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ขับเคลื่อนโครงการพืชหลังนาผ่านสหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพและมีพื้นที่เหมาะสม เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ สามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้นแก่สมาชิกสหกรณ์ อีกทั้งเพื่อตอบโจทย์ปัญหาการขาดแคลนพืชอาหารสัตว์ของภาคอุตสาหกรรม อาทิ ข้าวโพด ถั่วเหลือง ข้าวสำหรับผลิตอาหารสัตว์ โดยรองอธิบดีฯ ได้เน้นย้ำว่า จะต้องมีการวางแผนการผลิต การรวบรวม และการตลาดให้รอบคอบ เพื่อให้ได้ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หรือพืชอื่นๆ ที่มีคุณภาพ ส่งผลให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หรือพืชหลังนาอื่นทุกเมล็ด มีตลาดรองรับที่แน่นอน เป็นไปตามเจตนารมย์ของโครงการ ที่จะช่วยให้สหกรณ์จะสามารถเพิ่มปริมาณและช่องทางการทำธุรกิจ และเพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพ ส่งผลให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป
จากนั้น เดินทางไปตรวจเยี่ยมแปลงข้าวโพดของนายไสว ห่องคำ ซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรนาเยีย จำกัด มีพื้นที่ในการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 7 ไร่ และเลี้ยงวัว จำนวน 17 ตัว และได้เข้าร่วมโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร และโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงโค – กระบือ อีกด้วย
สหกรณ์การเกษตรนาเยีย จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2536 ปัจจุบันมีสมาชิก 1,500 ราย มีทุนดำเนินงานกว่า 127 ล้านบาท ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจการปล่อยสินเชื่อให้สมาชิก เพื่อการประกอบอาชีพ และธุรกิจการรรวบรวมข้าวโพด คือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งสหกรณ์ฯ ร่วมกับ บริษัท ซีพีเอฟ จำกัด (มหาชน) ในการรรวบรวมข้าวโพด ซึ่งมีสมาชิกของ 2 สหกรณ์ ลงทะเบียนอยู่ 600 ราย โดยผลการรวบรวมข้าวโพด ในปี 2566 ตั้งแต่วันที่ 15 – 21 มีนาคม 2566 นั้น มีปริมาณ 331 ตัน นอกจากนี้ สหกรณ์ได้ดำเนินธุรกิจจัดหาสินค้า มาจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็น ปุ๋ย สารเคมีทางการเกษตร เมล็ดพันธุ์ข้าว อุปกรณ์การเกษตร เช่น เครื่องตัดหญ้า เลื่อยยนต์ เครื่องพ่นยา ที่ได้มาตรฐานและมีใบอนุญาตถูกต้อง ธุรกิจแปรรูป โดยการแปรรูปมันสำปะหลังแห้ง อย่างไรก็ตาม สหกรณ์ยังได้ดำเนินโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งผลิตน้ำด้วยระบบโซล่าเซลล์ ปล่อยเงินกู้ระยะปานกลางให้กับสมาชิก รายละ 50,000 บาท จำนวน 58 ราย ส่งชำระ 5 ปี เพื่อให้สมาชิกมีน้ำใช้ในพื้นที่การเกษตร และสามารถทำปศุสัตว์และทำการเกษตรได้ และโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงโค – กระบือ ให้สมาชิกกู้ยืมเงิน รายละ 100,000 บาท จำนวน 38 ราย ส่งชำระ 5 ปี
กรมส่งเสริมสหกรณ์ ข่าว