กรมส่งเสริมการเกษตร สั่งการเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย 49 จังหวัด
นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่าน พัดปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ และมีฝนกระจายต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ จำนวน 49 จังหวัดในทั่วทุกภูมิภาค (ข้อมูล ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2566) ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงใหม่ เชียงราย ตาก น่าน นครสวรรค์ แพร่ พะเยา เพชรบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ บุรีรัมย์มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง นครปฐม สุพรรณบุรี สมุทรสาคร ยะลา และจังหวัดสตูล โดยได้มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว จำนวน 32 จังหวัด
นางอัญชลี สุวจิตตานนท์
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า กรมส่งเสริมการเกษตรมีความห่วงใยประชาชน ตลอดจนพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะในจังหวัดที่ประสบภัยได้ลงพื้นที่เพื่อประสานงานให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น และเร่งสำรวจพื้นที่ประสบภัยภายหลังน้ำลด และบันทึกข้อมูลลงในระบบข้อมูลเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืชแล้ว จำนวน 25 จังหวัด พบว่า เกษตรกรได้รับผลกระทบ จำนวน 20,814 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย จำนวน 189,610 ไร่ แยกเป็น ข้าว จำนวน 170,746.50 ไร่ พืชไร่และพืชผัก จำนวน 18,467.25 ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ 396.25 ไร่ คาดว่าจะใช้วงเงินช่วยเหลือ จำนวน 266,969,197.75 บาท
ทั้งนี้ การดำเนินการให้ความช่วยเหลือของกรมส่งเสริมการเกษตร กรณีพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายเกษตรกรจะได้รับความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 โดยเกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย โดยจะได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน
กรมส่งเสริมการเกษตร ข่าว