กสก. แจ้งเกษตรกรต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชน

215

กรมส่งเสริมการเกษตร เตือนเกษตรกรต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ประจำปี 2567 ช่วยรักษาสิทธิ์ รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐ

นายกฤษ อุตตมะเวทิน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ได้กำหนดนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนให้เป็นผู้ประกอบการเชิงธุรกิจที่มีศักยภาพ เป็น Smart Group เป็นนโยบายสำคัญ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการกลุ่ม โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐาน มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถเชื่อมโยงตลาดในรูปแบบต่าง ๆ เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกลุ่ม สร้างความมั่นคงให้แก่เกษตรกรและสังคมเกษตร สร้างงาน สร้างรายได้ให้คนในชุมชน ซึ่งการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ช่วยส่งผลให้วิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนได้รับประโยชน์ทั้งการได้รับการรับรองตามกฎหมาย และได้รับการประเมินศักยภาพ ทำให้ทราบระดับความเข้มแข็งและความต้องการที่แท้จริง สามารถวางแผนพัฒนาได้ตามความพร้อม ที่สำคัญยังสามารถขอรับการส่งเสริมหรือสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการเกษตรและหน่วยงานภาคี ช่วยเสริมสร้างให้เกิดความแข็งแรงในรูปแบบของเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการส่งเสริมมาอย่างต่อเนื่อง ตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ.2548 โดย ณ ปัจจุบัน (ข้อมูล 20 ธ.ค. 2566)  มีวิสาหกิจชุมชน 84,204 แห่ง สมาชิก 1,470,462 ราย และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน 618 แห่ง สมาชิก 15,731 ราย ได้รับอนุมัติการจดทะเบียนโดยกรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว

นายกฤษ อุตตมะเวทิน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า เพื่อให้วิสาหกิจชุมชนมีการดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการประกอบกิจการ กรมส่งเสริมการเกษตรได้อำนวยความสะดวกให้แก่วิสาหกิจชุมชนในการต่อทะเบียน โดยมอบให้สำนักงานเกษตรอำเภอ/สำนักงานเกษตรพื้นที่ (กทม.) เป็นสถานที่รับต่อทะเบียน ฯ ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มกราคม 2567 โดยผู้แทนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน สามารถติดต่อยื่นต่อทะเบียนพร้อมเอกสารประกอบการ ดังนี้ (1) หนังสือสําคัญแสดงการจดทะเบียน (ท.ว.ช.2) (2)  เอกสารสําคัญแสดงการดําเนินกิจการ (ท.ว.ช.3) (3)  บัตรประชาชนของผู้ยื่นแบบ (4)  หนังสือมอบอํานาจให้ทําการแทน (5) บันทึกแจ้งความ (กรณี ท.ว.ช.2 /ท.ว.ช.3 สูญหาย) (6)  ข้อบังคับ หรือข้อตกลงร่วมกันของสมาชิก (7)  แผนประกอบการ และ (8)  ผลการดําเนินงาน

            ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนที่ขาดการต่อทะเบียนเป็นระยะเวลา 2 ปีติดต่อกัน จะถูกเพิกถอนทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน และหมดสิทธิ์รับการส่งเสริมและสนับสนุนหรือบริการจากภาครัฐ (ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสากิจชุมชน พ.ศ.2548 มาตรา 8) หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ยื่นจดทะเบียน

กรมส่งเสริมการเกษตร ข่าว