นักวิจัยจัดทัพรับ 3 รางวัลเลิศรัฐจากสำนักงาน ก.พ.ร.
กรมวิชาการเกษตร ผงาดกวาด 3 รางวัลเลิศรัฐประจำปี 2563 จากสำนักงาน ก.พ.ร. ประเภทนวัตกรรม พัฒนาบริการ และประชาชนมีส่วนร่วม ชูจุดเด่น 3 ผลงานชนะใจกรรมการ ช่วยลดต้นทุนการผลิต สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกร และลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า รางวัลเลิศรัฐเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศประจำปีที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) มอบให้แก่หน่วยงานรัฐที่มุ่งมั่นปฏิบัติราชการจนประความสบความสำเร็จมีความเป็นเลิศแห่งหน่วยงานรัฐ โดยมี 3 สาขารางวัล คือ สาขาบริการภาครัฐ สาขาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ และสาขาการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม โดยในปี 2563 นี้ผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตรสามารถคว้ารางวัลเลิศรัฐ มาได้ถึง 3 รางวัล ดังนี้
ผลงานวิจัย“พืชผักปลอดภัยจากยาฆ่าแมลงด้วยนวัตกรรมชีวภัณฑ์ไส้เดือนฝอย”ของสำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ ได้รับรางวัลเลิศรัฐ สาขาบริการภาครัฐ ประเภทนวัตกรรมการบริการ ผลงานวิจัยนี้ได้วิจัยค้นหาไส้เดือนฝอยสายพันธุ์ไทยนำมาพัฒนาเป็นชีวภัณฑ์โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้นวัตกรรมการผลิตในรูปแบบที่เกษตรกรสามารถทำใช้เองได้ มีกระบวนการเพาะเลี้ยงที่ไม่ยุ่งยาก ต้นทุนต่ำ และเป็นชีวภัณฑ์กำจัดแมลงศัตรูพืชที่มีความปลอดภัยมีประสิทธิภาพเทียบได้กับสายพันธุ์ต่างประเทศ มีศักยภาพในการกำจัดแมลงศัตรูผักหลายชนิด สามารถนำไปใช้ลดหรือทดแทนสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและวิธีการใช้สู่เกษตรกรต้นแบบในชุมชนผลิตพืชปลอดภัยทำให้เกษตรกรสามารถผลิตใช้เองได้ ลดการใช้สารเคมีกำจัดแมลงในระบบการผลิตพืชได้ถึง 50-100 %
ผลงานวิจัย “นวัตกรรมการตรวจพืชดัดแปลงพันธุกรรมที่จำเพาะแบบ 3 ยีนในการทดสอบเดียวกัน”ของ สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ ได้รับรางวัลเลิศรัฐ สาขาบริการภาครัฐ ประเภทพัฒนาการบริการ ผลงานวิจัยนี้ได้พัฒนาวิธีการให้บริการตรวจวิเคราะห์สินค้าพืชดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อตรวจและรับรองสินค้านำเข้า ส่งออก และเฝ้าระวังการปะปนในประเทศ จากกระบวนการตรวจสอบเดิมที่มีความยุ่งยากและมีขั้นตอนซ้ำซ้อน โดยได้คิดค้นนวัตกรรม “การตรวจยีนที่จำเพาะแบบ 3 ยีนในการทดสอบเดียวกัน ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในการตรวจวิเคราะห์คัดกรองยีน เนื่องจากไม่เคยมีการตรวจคัดกรอง 3 ยีนในขั้นตอนเดียวกันมาก่อน โดยวิธีตรวจวิเคราะห์ทำปฏิกิริยาขั้นตอนเดียว มีความถูกต้อง แม่นยำ สามารถตรวจวิเคราะห์พืชดัดแปลงพันธุกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพดีกว่าวิธีเดิม ลดขั้นตอนและระยะเวลาการทดสอบจนถึงการออกใบรายงานผลการทดสอบจากเดิม 12 วันเหลือเพียง 7 วัน ซึ่งวิธีการตรวจวิเคราะห์ดังกล่าวได้รับการยอมรับจากบริษัทเมล็ดพันธุ์ชั้นนำของโลก
ผลงานวิจัย “ยกระดับถั่วหลังนาประชารัฐสู่กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองหนองวัวซอ” ของกองวิจัยพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืช ได้รับรางวัลสาขาการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ประเภทสัมฤทธิผลประชาชนมีส่วนร่วม ของกองวิจัยพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืช การดำเนินการ “โครงการถั่วเหลืองหลังนาประชารัฐมั่นคง หนองวัวซอ” มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาความขาดแคลนเมล็ดถั่วเหลืองพันธุ์ดีให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของประเทศ โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ ประชาชน และเอกชน สร้างและพัฒนาแกนนำเกษตรกรอาสาปลูกถั่วเหลืองเพื่อผลิตเมล็ดและเมล็ดพันธุ์ให้เกิดความยั่งยืนในรูปแบบประชารัฐ โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
จากผลการดำเนินการเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้ผลผลิตถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นจากเดิม 145 กิโลกรัม/ไร่ เป็น 245 กิโลกรัม/ไร่ และเกษตรกรสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้ปลูกในฤดูถัดไปได้ช่วยลดต้นทุนการซื้อเมล็ดพันธุ์ให้กับเกษตรกรจำนวน 47,000 บาท รวมทั้งเกษตรกรยังมีรายได้เพิ่มจากการจำหน่ายถั่วเหลืองเป็นเมล็ดพันธุ์ สามารถเพิ่มพื้นที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองฤดูแล้งจากปี 2561 จำนวน 88 ไร่เป็น 200 ไร่ในปี 2563
“รางวัลเลิศรัฐที่กรมวิชาการเกษตรได้รับจากสำนักงาน ก.พ.ร.ทั้ง 3 รางวัลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งรางวัลเกียรติยศแห่งความ ภาคภูมิใจของนักวิจัยกรมวิชาการเกษตรที่จะมุ่งมั่นสร้างสรรค์พัฒนาผลงานวิจัยให้เกิดประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายต่อไปตามวิสัยทัศน์ขององค์กร “ซื่อสัตย์ โปร่งใส งานวิจัยมีคุณภาพ” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว
กรมวิชาการเกษตร ข่าว