เตรียมมอบต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจร

835

เกษตรฯ เตรียมมอบต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจรให้กลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน

จากนโยบาย “ตลาดนําการผลิต” ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผนึกความร่วมมือกับสภาการแพทย์แผนไทย และกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข เล็งเห็นโอกาสทางการตลาดของพืชสมุนไพรที่สามารถนําไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนแบบบูรณาการให้เกิดความเชื่อมโยงในการพัฒนาตลอดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ในการผลิตพืชที่มีศักยภาพที่ตลาดมีความต้องการ

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรสนองนโยบายดังกล่าวและได้ดำเนินโครงการบ้านพอเพียงเลี้ยงชีวิตสู้โควิด-19 มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 โดยการผนึกกำลังศูนย์ปฏิบัติการของกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 34 แห่ง ดำเนินการผลิตพืชผักและสมุนไพร 7 ชนิด รวมทั้งสิ้นกว่า 3.7 ล้านต้น ประกอบด้วย ฟ้าทะลายโจร มะละกอ พริก  มะเขือ มะรุม ผักหวานบ้าน และแคบ้าน ซึ่งเป็นต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจร ประมาณ 4.6 แสนต้น มอบให้เกษตรกรเพื่อนำไปปลูกสำหรับบริโภคเองภายในครอบครัว เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย และสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการพึ่งพาตนเอง โดยสนับสนุนผ่านเครือข่ายอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) จำนวน 75,130 ราย ทำหน้าที่ประสานงานและถ่ายทอดความรู้ในการปลูกพืชผักและสมุนไพรในครัวเรือนให้กับเกษตรกรในหมู่บ้าน

ในปี 2564 กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการคัดเลือกฟ้าทะลายโจร สายพันธุ์พิษณุโลก 5-4 ซึ่งผลจากการวิเคราะห์สารสำคัญพบว่า มีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ สูงสุดเท่ากับ 6.98 กรัม/น้ำหนักแห้ง 100 กรัม ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานวัตถุดิบสมุนไพรฟ้าทะลายโจรที่กำหนดไว้ให้มีปริมาณไม่น้อยกว่า 6 กรัม/น้ำหนักแห้ง 100 กรัม นอกจากนี้พันธุ์ดังกล่าวยังให้ผลผลิตสูง โดยให้ผลผลิตน้ำหนักสดสูงสุด 3,070 กิโลกรัมต่อไร่ (ที่ระยะปลูก 30 x 40 เซนติเมตร) และให้ผลผลิตน้ำหนักแห้งสูงสุด 776.6 กิโลกรัมต่อไร่ ปัจจุบันกรมส่งเสริมการเกษตร โดย ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 6 จังหวัดพิษณุโลก ได้รับมอบต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจรสายพันธุ์พิษณุโลก 5-4 จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร กรมวิชาการเกษตร เพื่อนำมาผลิตขยายเพิ่มจำนวนต้นพันธุ์ให้มีปริมาณมากเพียงพอสำหรับส่งต่อและกระจายต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจรพันธุ์ดีให้กับกลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกและแปรรูปพืชสมุนไพร โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของศูนย์ขยายพันธุ์พืช คอยให้คำแนะนำในการคัดเลือกพื้นที่ การปลูก การดูแลรักษา และการเก็บเกี่ยวที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้วัตถุดิบสมุนไพรฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณสารสำคัญสูง ปลอดภัยจากโลหะหนักและสารเคมีตกค้างทางการเกษตร เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืชสมุนไพร (GAP) และเหมาะสำหรับนำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่อไป

ด้านนายวิชัย ตู้แก้ว ผู้อำนวยการกองขยายพันธุ์พืช กล่าวว่า สำหรับคำแนะนำในการขยายพันธุ์ฟ้าทะลายโจร เนื่องจากฟ้าทะลายโจรเป็นพืชที่สามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายทั้งการเพาะเมล็ดและการปักชำ โดยการขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด เกษตรกรควรคัดเลือกเมล็ดที่ได้จากฝักแก่จัด เมล็ดต้องมีสีน้ำตาลแดง ลักษณะสมบูรณ์ปราศจากโรคและแมลงทำลาย ซึ่งเมล็ดฟ้าทะลายโจรมักจะมีปัญหาเรื่องการพักตัว ดังนั้นกรณีเมล็ดที่เก็บใหม่หรือมีอายุการเก็บรักษานานน้อยกว่า 2 เดือน ควรกระตุ้นความงอกด้วยการแช่เมล็ดในน้ำอุณหภูมิห้องนาน 24 ชั่วโมง หรือแช่ในน้ำร้อน นาน 5 – 7 นาที แล้วนำขึ้นมาผึ่งไว้ให้เย็นที่อุณหภูมิห้อง  แต่ถ้าหากเป็นเมล็ดที่มีอายุการเก็บรักษานานประมาณ 1 ปี ควรกระตุ้นความงอกด้วยการเก็บที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1 เดือน หรืออบที่อุณหภูมิ 45 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 48 ชั่วโมง จะช่วยทำให้เมล็ดพันธุ์งอกดีขึ้น

สำหรับการขยายพันธุ์โดยใช้กิ่งปักชำ เกษตรกรควรคัดเลือกกิ่งฟ้าทะลายโจรจากต้นที่สมบูรณ์ แข็งแรง ปราศจากโรคและแมลงทำลาย มีอายุที่เหมาะสมสำหรับการปักชำ (ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป) ความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ควรเด็ดใบออกบ้างเพื่อลดการคายน้ำ จากนั้นนำไปแช่ในน้ำยาเร่งรากเป็นเวลา 10 นาที ผึ่งให้แห้งก่อนปักชำแล้วรดน้ำให้ชุ่ม โดยต้องรักษาความชุ่มชื้นและพรางแสงประมาณ 1 สัปดาห์ เมื่อมีการแตกใบและรากงอกแล้วสามารถย้ายปลูกลงในแปลงต่อไปได้

ทั้งนี้ ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ประกอบกับที่กระทรวงสาธารณสุขได้ทำการวิจัยแล้วพบว่า ยาสมุนไพร “ฟ้าทะลายโจร” ซึ่งเป็นยาสามัญประจำบ้านที่ได้รับการยอมรับ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบัน เนื่องจากมีสารสำคัญ คือ “แอนโดรกราโฟไลด์” มีสรรพคุณสามารถลดความรุนแรงของโรคในผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการไม่หนักได้ และมีการสนับสนุนให้โรงพยาบาลนำไปใช้ เพื่อช่วยประหยัดงบประมาณในการนำเข้ายาที่จะรักษาผู้ป่วย นับเป็นโอกาสดีของเกษตรกรผู้ปลูกพืชสมุนไพรสามารถปลูกฟ้าทะลายโจรให้มีคุณภาพ มีสารสำคัญเพียงพอ เพื่อแปรรูปผลผลิตจำหน่ายเอง หรือจำหน่ายเป็นวัตถุดิบให้กับหน่วยงานที่จะนำไปแปรรูปเป็นยาเพื่อใช้ในการรักษาต่อไปได้

กรมส่งเสริมการเกษตร ข่าว