กรมการข้าว รุดช่วยชาวนาชัยภูมิที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม
วันที่ 28 กันยายน 2564 นายณัฎฐกิตติ์ ของทิพย์ รองอธิบดีกรมการข้าว พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิเพื่อเตรียมการช่วยเหลือชาวนาที่ประสบอุทกภัย ณ วัดชัยชนะวิหาร (วัดบ้านละหาน) จังหวัดชัยภูมิ เพื่อเตรียมการต้อนรับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ลงพื้นที่มาตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
นายณัฎฐกิตติ์ เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความเป็นห่วงพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจังหวัดชัยภูมิ จึงได้มอบหมายให้กรมการข้าวเข้าไปดูแลพี่น้องชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้
รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวต่อไปว่า จากเหตุอุทกภัยพบว่า จังหวัดชัยภูมิมีพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับความเสียหายจากอุทกภัยจำนวน 145,337 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กันยายน 2564) โดยกรมการข้าวได้เตรียมการช่วยเหลือชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ ด้วยการให้การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่ชาวนาผู้ปลูกข้าวที่ประสบภัยพิบัติจนทำให้ต้นข้าวที่ปลูกไว้เสียหายสิ้นเชิง หรือเสียหายมากกว่าร้อยละ 80 และจังหวัดประกาศเป็นเขตประสบภัยพิบัติในกรณีฉุกเฉินแล้ว และให้การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ห่างไกลความเจริญและขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อการเพาะปลูก เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีการจัดทำแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้ปลูกในฤดูต่อไป หรือกระจายให้เกษตรกรอื่นในชุมชนใช้เพาะปลูก ทั้งนี้ คุณสมบัติของเกษตรกรผู้จะได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว ต้องเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติจนขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้ปลูกในฤดูเดียวกัน และมีความประสงค์จะขอรับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่จะเพาะปลูกในฤดูเดียวกัน หรือเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ห่างไกลความเจริญและขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อการเพาะปลูก เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีการจัดทำแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้ปลูกในฤดูต่อไป หรือกระจายให้เกษตรกรอื่นในชุมชนใช้เพาะปลูก
“ผมได้มอบหมายให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวและศูนย์วิจัยข้าวในพื้นที่ เร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมการช่วยเหลือสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยจะสนับสนุนให้ชาวนารายละไม่เกิน 10 ไร่ ๆ ละ 15 กิโลกรัม แบ่งเป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง 1,701,200 กิโลกรัม ข้าวหอมปทุม 500,400 กิโลกรัม และข้าวเหนียว 2,350,100 กิโลกรัม รวม 4,551,700 กิโลกรัม โดยปริมาณการสนับสนุนบรรเทาฟื้นฟูขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการเกิดภัยพิบัติร้ายแรงในแต่ละครั้ง หรือสภาพการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวในพื้นที่ โดยให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการสำรองเมล็ดพันธุ์ข้าว เพื่อความมั่นคงแห่งชาติ ตามหลักเกณฑ์การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ปี 62 โดยมีการปรับอัตราการให้ความช่วยเหลือให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่เกิดภัย 1 ก.ย. 64 ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ได้แก่ ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท ไม้ผล ไม้ยืนต้น และอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท ” รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าว
กรมการข้าว ข่าว