กรมประมงส่งมอบปะการังเทียม ฟื้นท้องทะเล 4 จังหวัดสนองโครงการอนุรักษ์แนวปะการังฯ
วันจันทร์ 13 ธันวาคม 2564 ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานเปิดกิจกรรม“ส่งมอบปะการังเทียมแก่ชาวประมง” ตามโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่ออนุรักษ์และสร้างจิตสำนึกในการหวงแหนและรักษาสิ่งแวดล้อมตลอดจนสร้างสมดุลให้กับระบบนิเวศที่มีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของสัตว์น้ำใต้ท้องทะเลไทย พร้อมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 500,000 ตัว โดยมีนายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนมูลนิธิอนุรักษ์ แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยฯ ผู้แทนกองทัพเรือ ผู้แทนกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ข้าราชการในพื้นที่ ชาวประมง นักเรียนนักศึกษา และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์และสร้างจิตสำนึก การหวงแหนแนวปะการัง กัลปังหา และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย โดยทรงห่วงใยปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเล กรมประมงร่วมสนองพระดำริ โดยเข้าร่วมโครงการ “อนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” โดยมีกองทัพเรือและหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการจัดทำโครงการ แผนงาน และกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถสนองพระดำริได้อย่างเป็นรูปธรรม
กรมประมง เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในด้านการฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ จึงได้ร่วมสนองพระดำริโดยดำเนินกิจกรรมร่วมในโครงการฯ มาอย่างต่อเนื่อง และในปีงบประมาณ 2564 ได้ดำเนินการรวม 6 โครงการ ได้แก่
- โครงการจัดสร้างปะการังเทียม 4 แห่ง
- โครงการติดตามผลการจัดสร้างปะการังเทียม
- โครงการวิจัยสังคมเศรษฐกิจของชุมชนที่ใช้ประโยชน์บริเวณปะการังเทียมของโครงการฯ
- โครงการ “การแก้ไขปัญหาเครื่องมือประมงที่มีผลกระทบต่อพะยูน
- การรณรงค์ลดขยะทะเลจากภาคการประมง ด้วยกิจกรรม “ขยะคืนฝั่ง ทะเลสวยด้วยมือเรา”
- เพิ่มพันธุ์สัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งทะเลโดยชุมชนมีส่วนร่วม
สำหรับโครงการจัดสร้างปะการังเทียม มีเป้าหมายจัดสร้างปะการังเทียมจำนวน 872 แท่ง พร้อมนำไปจัดวางในพื้นที่ 4 แห่ง 4 จังหวัด โดยดำเนินการจัดวางปะการังเทียมแท่งคอนกรีตขนาด 1.5 x 1.5 x 1.5 เมตร จำนวนพื้นที่ละ 200 แท่งและปะการังเทียมแท่งคอนกรีตขนาด 3 x 3 x 3 เมตร จำนวนพื้นที่ละ 18 แท่ง จัดวางในพื้นที่ ดังนี้
- บริเวณชายฝั่งทะเล อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
- บริเวณชายฝั่งทะเล อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์
- บริเวณชายฝั่งทะเล อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
- ชายฝั่งทะเล อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
นอกจากนี้กรมประมงได้จัดส่งนักวิชาการประมงลงพื้นที่สำรวจและติดตามเปรียบเทียบผลก่อน-หลัง การจัดสร้างปะการังเทียมอย่างต่อเนื่องพบว่า กองปะการังเทียมเกิดเป็นระบบนิเวศที่เหมาะสม สามารถเป็นแหล่งหลบภัยสัตว์น้ำวัยอ่อนได้เป็นอย่างดี สัตว์น้ำมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แหล่งการทำประมงบริเวณชายฝั่ง สามารถยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวประมงให้ดียิ่งขึ้น
การสร้างปะการังเทียม เป็นหนึ่งในแนวทางที่กรมประมงได้ดำเนินการเพื่อเพิ่มพื้นที่อยู่อาศัยและสร้างแหล่งหลบภัยให้กับสัตว์น้ำ ตลอดจนช่วยให้ชาวประมงมีแหล่งทำประมงใกล้ฝั่ง ลดความเสี่ยงอันตรายและค่าใช้จ่ายในการออกไปทำประมงให้กับพี่น้องชาวประมง โดยกรมประมงได้จัดงานส่งมอบปะการังเทียมแก่ชาวประมงขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงมีพระดำริที่จะอนุรักษ์แนวปะการัง กัลปังหา และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ภายในงานจะมีกิจกรรมการส่งมอบปะการังเทียมให้แก่ชาวประมง การจัดแสดงนิทรรศการปะการังเทียมเพื่อให้ชาวประมงมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปะการังเทียมเพื่อบริหารจัดการประมงที่ยั่งยืน พร้อมปล่อยพันธุ์ลูกกุ้งกุลาดำ จำนวน 500,000 ตัว ตลอดจนร่วมกันเก็บขยะบริเวณชายหาดศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อสร้างจิตสำนึกปรับวิธีคิดและเปลี่ยนพฤติกรรมของชาวประมงและประชาชนในพื้นที่โดยรอบในเรื่องการจัดการขยะทะเล
“โครงการจัดสร้างปะการังเทียม” นับเป็นหนึ่งในโครงการของกรมประมงที่สนองพระดำริฯ ของพระองค์ท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบูรณาการการทำงานระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน ในการร่วมกันพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรสัตว์น้ำ เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำให้กับท้องทะเลไทย สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ความมั่งคั่งทางด้านเศรษฐกิจ และความยั่งยืนให้กับการทำการประมงทะเลของประเทศไทยสืบไป
กรมประมง ข่าว