เตรียมผลักดันพืชกระท่อมสู่พืชเศรษฐกิจ

706

กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งศึกษาการขยายพันธุ์และส่งเสริมพืชกระท่อมพันธุ์ดีสู่พืชเศรษฐกิจ

วันที่​ 8 มกราคม 2565 นายขจร เราประเสริฐ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรด้านส่งเสริมการผลิต ร่วมกิจกรรมศึกษาแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคนิคองค์ความรู้การเพาะเลี้ยงกระท่อม ณ ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 4 จังหวัดนครศรีธรรมราช

พืชกระท่อม (Mitragyna speciosa (Korth.) Havil.) ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ​ ได้แก่​ การรักษาโรคตามภูมิปัญญาพื้นบ้านและตำรับยาแผนโบราณ กลุ่มผู้ใช้แรงงานและเกษตรกร​มาเป็นเวลานาน โดยมีสารไมตราจินีน และสาร 7-ไฮดรอกไซไมตราจินีน เป็นสารสำคัญสามารถบรรเทาอาการปวด​ แก้ปวดท้อง แก้บิด ท้องเสีย แก้ปวดเมื่อยร่างกาย ระงับประสาท ช่วยให้ทำงานทนไม่หิวง่าย โดยพบได้มากในป่าธรรมชาติบริเวณภาคใต้ และบางจังหวัดของภาคกลาง

นายขจร เราประเสริฐ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรด้านส่งเสริมการผลิต เปิดเผยว่า ในอดีตพืชกระท่อมถูกระบุในพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 5 แต่ในปัจจุบัน ประเทศไทยได้แก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่ 8 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 โดยพืชกระท่อมได้พ้นจากบัญชียาเสพติดให้โทษ พืชกระท่อมจึงได้รับความสนใจจากเกษตรกรและประชาชนทั่วไป​ อย่างไรก็ตามพืชกระท่อมยังขาดการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการขยายพันธุ์ที่มีคุณภาพและปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้ร่วมกับคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยการสนับสนุนทุนวิจัยโดยสำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการวิจัยเรื่องการศึกษาการขยายพันธุ์และส่งเสริมพืชกระท่อมพันธุ์ดีสู่พืชเศรษฐกิจ  มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการขยายพันธุ์ การเจริญเติบโตและการตอบสนองทางสรีรวิทยาในระยะต้นกล้าและศึกษาปัจจัย รวมถึงอุปสรรค สำหรับการขยายพันธุ์กล้าไม้พืชกระท่อม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมการปลูก สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และพัฒนาไปสู่พืชเศรษฐกิจฐานชุมชน เพื่อสร้างรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกรต่อไป โดยมีเป้าหมายการผลิตจำนวน​ 100,000​ ต้น

โดยการจัดกิจกรรมในวันนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้ร่วมกับคณะอาจารย์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น กองขยายพันธุ์พืช​ ศูนย์ขยายพันธุ์พืช สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา​ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคนิคในการเพาะกระท่อมพันธุ์ดีซึ่งจะนำองค์ความรู้ดังกล่าวไปใช้ในการผลิตกระท่อมตามโครงการวิจัยและนำองค์ความรู้ดังกล่าวไว้ใช้ส่งเสริมเกษตรกรต่อไป

กรมส่งเสริมการเกษตร ข่าว