ติดตามโครงการพัฒนาศูนย์บริการและการบริหารการปลูกข้าวแม่นยำสูง

501

กรมการข้าวติดตามโครงการพัฒนาศูนย์บริการและการบริหารการปลูกข้าวความแม่นยำสูงนาแปลงใหญ่ จ.ปทุมธานี

วันอังคารที่ 8 ก.พ. 2565 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ รองอธิบดีกรมการข้าว ลงพื้นที่ตรวจติดตามผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศูนย์บริการและการบริหารการปลูกข้าวความแม่นยำสูงของนาแปลงใหญ่ต้นแบบ ณ แปลงนากลุ่มวิสาหกิจเพาะรักกสิกรรม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยมี นายชาตรี ระดมเล็ก ประธานกลุ่มแปลงใหญ่เพาะรักกสิกรรม​ให้การต้อนรับ

นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาเกษตรกรไทยประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งอุทกภัย ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ทำให้ผลผลิตเสียหายเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วน ไม่เว้นแม้แต่ภาคการเกษตรซึ่งก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ทำให้เกิดการเลิกจ้างงานส่งผลให้แรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศได้โยกย้ายกลับภูมิลำเนาเพื่อพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และผลักดันให้แรงงานเหล่านี้เป็นกำลังสำคัญหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคเกษตรของไทยหลังการระบาดของโรคโควิด-19 โดยมุ่งเน้นให้ภาคเกษตรสามารถเป็นแหล่งความมั่นคงทางด้านอาหารของไทยและของโลก

รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวต่อไปว่า ภาครัฐจึงมีการสนับสนุนให้เกษตรกรรวมตัวกันทำเกษตรแบบแปลงใหญ่เพื่อสร้างประสิทธิภาพการผลิต ด้วยระบบบริหารจัดการแบบครบห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมข้าว โดยใช้เทคโนโลยีด้านการเกษตรแม่นยำสูง (Precision Agriculture) เป็นการทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเกษตรกรสามารถปรับใช้ทรัพยากรให้สอดคล้องกับสภาพของพื้นที่ย่อย รวมไปถึงการดูแลให้มีประสิทธิภาพและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการไถพรวนดิน การหว่านเมล็ดพืช การให้ปุ๋ย การใช้ยาปราบศัตรูพืช การให้น้ำพืช การเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่น การใช้โดรนเพื่อการเกษตร ติดตั้งกล้องมัลติสเปกตรัม (Multispectral Cameras เพื่อหาค่าดัชนีพืชพรรณ (NDVI : Normalized difference vegetation index) การตรวจวัดพื้นที่เพื่อสร้างแผนที่ด้านการเกษตรแบบแม่นยำสูง (High Precision Agriculture Mapping) การใช้อุปกรณ์เครื่องมือในการตรวจวัดค่าปุ๋ยในดิน การตรวจวัดสภาพอากาศและน้ำแบบ IOT ในการวิเคราะห์และให้ปุ๋ยได้อย่างแม่นยำ รวมไปถึงการใช้สารอินทรีย์ หรือการลดการใช้สารเคมีเพื่อให้หมาะสมกับสภาพพื้นที่และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดการด้านเครื่องมือและเครื่องจักรกลสำหรับแปลงนาของเกษตรกร พร้อมใช้ระบบโปรแกรมในการบริหารจัดการงานและข้อมูลภาคการเกษตรขนาดใหญ่ (Big Data) โดยมีการเตรียมและประยุกต์ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ในการดูแลอารักขาพืช การวางแผนบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งระบบและนวัตกรรมเหล่านี้จะถูกใช้ในกลุ่มเกษตรกร ซึ่งอยู่ในส่วนผู้ผลิต หรือต้นน้ำของห่วงโซ่อุปทาน และการใช้ระบบโปรแกรมในการบริหารจัดการด้านการแปรรูปของกลุ่มผู้แปรรูป คือ กลุ่มโรงสีข้าวหรือกลุ่มกลางน้ำ ตลอดจนเชื่อมโยงข้อมูลและบริการจัดการกับกลุ่มผู้รับซื้อผลผลิต หรือกลุ่มปลายน้ำรวมเข้าด้วยกันอย่างครบวงจร เพื่อให้การบริหารจัดการแบบองค์รวมในอุตสาหกรรมข้าวนั้นมีข้อมูลและบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

กรมการข้าว ข่าว