จ.อุบลราชธานี เดินหน้าสร้างเครือข่ายผู้ผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์ กลุ่มจังหวัดอีสานตอนล่าง 2
นางประเทือง วาจรัต ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 จังหวัดอุบลราชธานี (สศท.11) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จังหวัดอุบลราชธานีได้ดำเนินการปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์และเกษตรกรในพื้นที่ได้เข้าร่วมโครงการปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์ เมื่อปี 2559 โดยทำ Contract Farming กับบริษัทอุบลไบโอเอทานอล จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นการยกระดับการปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์อย่างยั่งยืนให้เกษตรกร และได้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ขับเคลื่อนโครงการสำคัญภายใต้แผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจังหวัด ซึ่งเป็นการดำเนินงานควบคู่กับโมเดลทางเศรษฐกิจใหม่ BCG Model (Bio-Circular-Green Economy) คือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว ที่ไม่ใช่เพียงการปลูกมันสำปะหลังให้ได้ผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการ แต่เป็นการต่อยอดไปสู่มันสำปะหลังอินทรีย์ สร้างระบบการผลิตที่ยั่งยืน นำไปสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง และสร้างรายได้สูงให้เกษตรกร จากการลงพื้นที่ของ สศท.11 เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา พบว่า จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์ 13,704 ไร่ ผลผลผลิตรวม 46,086 ตัน/ปี (เฉลี่ย 46 ล้าน กก./ปี) ซึ่งจังหวัดได้ร่วมกับสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 4 และบริษัทอุบลไบโอเอทานอล จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสร้างเครือข่ายผู้ปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์ ในกลุ่มจังหวัดอีสานตอนล่าง 2 อย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ โดยในปี 2566 มีเกษตรกรทั้ง 3 จังหวัด ที่เข้าร่วมโครงการ 700 ราย (อุบลราชธานี 600 ราย ยโสธร 60 ราย และอำนาจเจริญ 40 ราย) พื้นที่ปลูกรวม 14,048 ไร่ (อุบลราชธานี 13,704 ไร่ ยโสธร 240 ไร่ และอำนาจเจริญ 104 ไร่) โดยมีสำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี เป็นหน่วยงานกำกับดูแล นอกจากนี้ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 ลงพื้นที่ให้ความรู้เกษตรกร เรื่องกระบวนการผลิต การป้องกันโรคแมลง การใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมการผลิต และการตรวจรับรองมาตรฐานการผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์
ผลผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้ผ่านมาตรฐานอินทรีย์ไทย และมาตรฐานอินทรีย์สากล ได้แก่ 1) มาตรฐาน มกษ 9000-2552 หรือ Organic Thailand 2) มาตรฐานอินทรีย์ USDA-NOP (สหรัฐอเมริกา) 3) มาตรฐานอินทรีย์ EU (ยุโรป) 4) มาตรฐานอินทรีย์ JAS (ญี่ปุ่น) 5) มาตรฐานอินทรีย์ Korean (เกาหลี) และ 6) มาตรฐานอินทรีย์ China (จีน) เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีที่เข้าร่วมโครงการ มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 6,768 บาท/ไร่/ปี มีค่าจ้างแรงงานคนในการกำจัดวัชพืช จึงทำให้ต้นทุนการผลิตสูงกว่ามันสำปะหลังทั่วไป เกษตรกรปลูกช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ระยะเวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวโดยเฉลี่ย 1 ปี (11 – 12 เดือน) เก็บเกี่ยวช่วงเดือนมีนาคมของปีถัดไป ผลผลิตเฉลี่ย 3,363 กิโลกรัม/ไร่/ปี บริษัทรับซื้อผลผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์จากเกษตรกรทั้งหมดในราคาประกันมันสำปะหลังอินทรีย์เชื้อแป้ง 25 % อยู่ที่ 3.45 บาท/กิโลกรัม ซึ่งสูงกว่ามันสำปะหลังทั่วไปที่มีราคา 2.80 บาท/กิโลกรัม (ต่างกัน 0.65 บาท/กิโลกรัม) เกษตรกรได้ผลตอบแทน 9,416 บาท/ไร่/ปี ผลตอบแทนเฉลี่ยสุทธิ (กำไร) 2,648 บาท/ไร่/ปี ซึ่งขณะนี้ เกษตรกรอยู่ระหว่างรอการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่จะออกในช่วงมกราคม – มีนาคม 2567
“จังหวัดอุบลราชธานีและภาคี จะยังคงเดินหน้าสร้างเครือข่ายผู้ปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการยกระดับการปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์อย่างยั่งยืนให้เกษตรกร โดยบริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มกว่า 50% หรือประมาณ 30,000 ไร่ อย่างไรก็ตาม เกษตรกรควรมีการวางแผนทำการเกษตรอินทรีย์ที่หลากหลาย อาทิ ปลูกสมุนไพร ถั่วต่าง ๆ หรือหันมาปลูกเพื่อจำหน่ายท่อนพันธุ์ เกิดเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบยั่งยืนที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน หากท่านใดสนใจข้อมูลการผลิตและการตลาดมันสำปะหลังอินทรีย์ หรือสนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสอบถามได้ที่ คุณกัณฑ์พร กรรณสูต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายประสานงานภาครัฐ บริษัท อุบลไบโอเอทานอล จำกัด (มหาชน) โทร. 08 9962 6544” ผู้อำนวยการ สศท.11 กล่าวทิ้งท้าย
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ข่าว