สศก. โดยกองทุน FTA ติดตามกลุ่มเกษตรกรบ้านพญาไพรเล่าจอ พัฒนาคุณภาพชาสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างรายให้ให้กลุ่มปีละมากกว่า 12 ล้านบาท
นางสาวกาญจนา ขวัญเมือง รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงราย ถือเป็นแหล่งปลูกชาที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะบริเวณดอยแม่สลอง อำเภอแม่ฟ้าหลวง ซึ่งพันธุ์ที่ปลูกส่วนใหญ่ ได้แก่ ชาพันธุ์อัสสัม และชาอู่หลง ซึ่งเป็นชาที่มีคุณภาพ และเพื่อเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกชาในประเทศไทย สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงราย จึงได้ขอรับการสนับสนุนโครงการปรับโครงสร้างสินค้าชา จากกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ หรือ กองทุน FTA ให้แก่กลุ่มเกษตรกรบ้านพญาไพรเล่าจอ ในพื้นที่ดอยแม่สลองใน เพื่อพัฒนาคุณภาพชาสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าให้เป็นที่ต้องการของตลาดและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยกองทุนได้สนับสนุนเงินจำนวน 6,816,600 บาท โดยเป็นเงินยืมปลอดดอกเบี้ย จำนวน 5,360,800 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์แปรรูปชา และเป็นเงินจ่ายขาด จำนวน 1,455,800 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์ดิน การอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการตรวจ GAP การส่งเสริมการตลาด และค่าใช้จ่าย ในการติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานรับผิดชอบ
ปัจจุบัน กลุ่มเกษตรกรบ้านพญาไพรเล่าจอ มีพื้นที่ปลูก 1,200 ไร่ สมาชิก 38 คน มีนายสรรเสริญ สกุลรัตน์ไพศาล เป็นประธานกลุ่ม ได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ทั้งด้านการผลิต ในรูปของการผลิตชาคุณภาพ วิเคราะห์และปรับปรุงดินให้เหมาะสมพร้อมทั้งสาธิต และถ่ายทอดการทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อใช้ทดแทนปุ๋ยเคมี ถ่ายทอดเทคโนโลยี ส่งเสริมการปลูกและดูแลจัดการสวนชาเก่า และตรวจประเมินแปลงเพื่อรองรับแหล่งผลิตมาตรฐาน GAP และอินทรีย์ ด้านการแปรรูป ได้แก่ การอบรมเจ้าหน้าที่และเกษตรกรเกี่ยวกับการแปรรูปชาจีน และการบรรจุหีบห่อ กลุ่มเกษตรกรดำเนินการติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัย และดำเนินการผลิตชาแปรรูป และด้านการตลาดจังหวัด/ อำเภอ/ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานงานกับโรงงานผลิตชาและพ่อค้าในการจัดซื้อใบชาสด และผลิตภัณฑ์แปรรูปชาและทำ Contract Farming ระหว่างเกษตรกรกับผู้ประกอบการผลิตชา
ในการนี้ สศก. โดยกองทุน FTA สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามผลการดำเนินของโครงการ ระหว่างวันที่ 22 – 26 มกราคม 2567 ณ กลุ่มเกษตรกรบ้านพญาไพรเล่าจอ ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยกลุ่มเกษตรกรพญาไพรเล่าจอ มีการดำเนินการตามแผน และมีกำหนดชำระเงินยืมงวดสุดท้ายให้กับทางกองทุน FTA ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 และพบว่า สามารถเพิ่มปริมาณให้เพียงพอกับขนาดของโรงงานตรงตามความต้องการของตลาด โดยได้ผลผลิตเฉลี่ย 150 ตันต่อปี (ผลผลิตออกมากในเดือนมิถุนายน – กันยายน) ทางกลุ่มจะรับซื้อใบชาสดจากสมาชิก 15 บาทต่อกิโลกรัม และจำหน่ายออกตลาด แบบใบชาแห้ง ราคา 85 บาท ต่อกิโลกรัม และแบบใบชาเชียว 140 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น สร้างรายได้ให้กับทางกลุ่มเฉลี่ยปีละ 12,750,000 บาท โดยในระยะต่อไป ทางกลุ่มเกษตรกรยังมีแผนที่จะร่วมมือกับสถาบัน ชาและกาแฟ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพผลผลิตชาต่อไปในอนาคตอีกด้วย
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ข่าว