กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมรักษาเสถียรภาพราคาข้าว

16

กรมส่งเสริมสหกรณ์หนุนสหกรณ์การเกษตรร่วมรักษาเสถียรภาพราคาข้าว หลัง นบข.เคาะมาตรการสินเชื่อชะลอและรวบรวมข้าวช่วยชาวนา

กรมส่งเสริมสหกรณ์เดินหน้าหนุนสหกรณ์ร่วมรักษาเสถียรภาพราคาข้าวของประเทศ ภายหลังคณะกรรมการนโยบาย  และบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เคาะมาตรการสินเชื่อชะลอและรวบรวมข้าวช่วยเหลือชาวนา เพื่อดันราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 ให้สูงขึ้น

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศเตรียมความพร้อมสหกรณ์การเกษตรที่จะเข้าร่วมมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ภายหลังที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) มีมติเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เห็นชอบมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและดูแลราคาข้าวให้เป็นธรรมแก่เกษตรกร ซึ่งมาตรการดังกล่าว มี 2 โครงการสำคัญ ที่สหกรณ์การเกษตรจะเข้ามาร่วมขับเคลื่อน ได้แก่ 1.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี และ 2.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร

ทั้งนี้ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2567/68 เป้าหมาย 3 ล้านตัน วงเงิน 43,843.76 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อ 35,481 ล้านบาท วงเงินจ่ายขาด 8,362.76 ล้านบาทโดย ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อแก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรเพื่อชะลอข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร วงเงินสินเชื่อ 9,000 – 12,500 บาท/ตัน ตามชนิดข้าว ข้าวหอมมะลิตันละ 12,500 บาท ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ตันละ 11,000 ล้านบาท ข้าวหอมปทุมธานี ตันละ 10,000 บาท ข้าวเจ้า ตันละ 9,000 บาท และข้าวเหนียว ตันละ 10,000 บาท หากข้าวราคาขึ้น เกษตรกรสามารถไปไถ่ถอนออกมาเพื่อนำมาจำหน่ายได้ รวมทั้งช่วยค่าฝาก 1,500 บาท/ตัน ในกรณีเข้าร่วมกับสหกรณ์ สหกรณ์รับ 1,000 บาท/ตัน เกษตรกรรับ 500 บาท/ตัน เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง 1–5 เดือน ระยะเวลาทำสัญญา เริ่มตั้งแต่ ครม. มีมติ – 28 กุมภาพันธ์ 2568 และในพื้นที่ภาคใต้ ถึง 31 กรกฎาคม 2568

โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน วงเงิน 15,656.25 ล้านบาท จำแนกเป็น วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท และวงเงินจ่ายขาด 656.25 ล้านบาทโดย ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร คิดอัตราดอกเบี้ย 4.5 ต่อปี สถาบันเกษตรกรรับภาระจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี และรัฐสนับสนุนดอกเบี้ยแก่ ธ.ก.ส. ร้อยละ 3.5 ต่อปี  ระยะเวลาจ่ายสินเชื่อ ตั้งแต่ ครม. มีมติ – 30 กันยายน 2568 ระยะเวลาชำระหนี้ ไม่เกิน 31 ธันวาคม 2568

 “โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปี 2566/67 ที่ผ่านมา มีสหกรณ์ 107 แห่งจาก 35 จังหวัดเข้าร่วมโครงการ วงเงินกู้ 3,396.78 ล้านบาท เก็บชะลอข้าวกว่า 3.17 แสนตัน ส่วนโครงการรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปี 2566/67 มีสหกรณ์ 85 แห่ง จาก 25 จังหวัดเข้าร่วม รวบรวมข้าวกว่า 1.75 ล้านตัน ทั้ง 2 มาตรการนี้ จะช่วยเสริมสภาพคล่องสหกรณ์การเกษตรให้มีเงินทุนในการรวบรวมข้าวเปลือกจากเกษตรกรมาเก็บรักษาไว้ไม่ให้ออกสู่ตลาดพร้อมกัน เพื่อรอช่วงเวลาที่ราคาข้าวสูงขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจ เกษตรกรก็สามารถไถ่ถอนข้าวออกมาจำหน่ายได้ ส่งผลทำให้ราคาข้าวในตลาดเกิดเสถียรภาพ ซึ่งที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับสนุนอุปกรณ์การตลาด อาทิ ฉาง โกดัง ลานตาก และเครื่องอบลดความชื้นให้แก่สหกรณ์การเกษตร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรวบรวมข้าวเปลือกจากเกษตรกร ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวแต่ละปีได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอครม. อนุมัติโครงการ ถ้าผ่านการอนุมัติ ธ.ก.ส. จะเร่งดำเนินการ จ่ายเงิน ให้ทันการรวบรวมข้าว” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าว

กรมส่งเสริมสหกรณ์