ระวังโรคโคนเน่าขาว

1,237

เกษตรฯ เเนะฝนชุกให้ระวังโรคโคนเน่าขาวในถั่วลิสง

ช่วงนี้มีฝนตกและฝนตกหนักบางพื้นที่ อาจส่งผลกระทบต่อการปลูกถั่วลิสง กรมวิชาการเกษตร แนะเกษตรกรผู้ปลูกถั่วลิสงให้หมั่นสังเกตอาการของโรคโคนเน่าขาว หรือโรคลำต้นเน่า (เชื้อรา Sclerotium rolfsii) ที่สามารถพบได้ในระยะการออกดอกจนถึงระยะติดฝักของถั่วลิสง เริ่มแรกจะพบยอด กิ่ง และลำต้นของถั่วลิสงเหี่ยว และยุบเป็นหย่อมๆ ส่วนบริเวณโคนต้นเหนือดินจะพบแผลสีน้ำตาลและเส้นใยสีขาวหยาบของเชื้อราสาเหตุโรค จากนั้น เส้นใยของเชื้อจะรวมตัวเป็นเม็ดเล็กสีขาว และจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำคล้ายเมล็ดผักกาด ต่อมาต้นจะแห้งและตายในที่สุด

หลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตถั่วลิสงแล้ว เกษตรกรควรทำลายซากต้นถั่วลิสงด้วยการไถกลบให้ลึกพลิกหน้าดินตากแดด เพื่อตัดวงจรของเชื้อสาเหตุโรค และฆ่าเชื้อโรคที่อยู่ในดิน เนื่องจากเชื้อราสามารถมีชีวิตอยู่ในดินได้นาน จากนั้น ให้ใส่ปูนขาวหรือโดโลไมท์ก่อนปลูกเพื่อปรับสภาพดิน และควรจัดระยะปลูกให้เหมาะสม เพื่อให้โคนต้นโปร่ง แสงแดดส่องถึง ไม่ให้มีความชื้นสูง เพื่อเป็นการลดการระบาดของโรค อีกทั้งแปลงปลูกควรมีการระบายน้ำที่ดี

กรณีในแปลงที่พบการระบาดของโรคโคนเน่าขาว หรือ โรคลำต้นเน่า ให้เกษตรกรควรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน เช่น ข้าวโพด เป็นต้น อีกทั้งควรล้างทำความสะอาดเครื่องมือ เครื่องใช้ และอุปกรณ์ทางการเกษตรต่างๆ ให้สะอาด โดยการผึ่งแดดให้แห้งหลังการใช้งานทุกครั้งอยู่เสมอ เมื่อได้นำไปใช้กับต้นที่เป็นโรคในแปลงที่มีการระบาดก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ในครั้งต่อไป

นอกจากนี้ ให้เกษตรกรหมั่นตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากพบต้นที่เป็นโรค ให้ถอนต้นและขุดดินบริเวณที่พบนำไปทำลายนอกแปลงปลูก จากนั้น ให้รดดินในหลุมและบริเวณใกล้เคียงเพื่อป้องกันเชื้อราแพร่ไปยังต้นข้างเคียงด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชคาร์บอกซิน 75% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 15 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสาร   โทลโคลฟอส-เมทิล 50% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารอีไตรไดอะโซล 24% อีซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารอีไตรไดอะโซล + ควินโตซีน 6% + 24% อีซี อัตรา 30-40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร โดยรดสารทุก 5 วัน อย่างน้อย 2 ครั้ง

กรมวิชาการเกษตร ข่าว