ช่วยน้ำท่วม

1,056

ชลประทาน จับมือภาคีเข้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัย

จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ซินลากู” ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ กรมชลประทาน มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ได้กำชับเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานทั่วประเทศ เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ตลอดจนวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์อุทกภัยอันเกิดจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ซินลากู” พบว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยในหลายพื้นที่ อาทิ จังหวัดเชียงราย สำนักงานชลประทานที่ 2 ได้เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักรเครื่องมือ และบุคลากรไว้พร้อมรับสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันมีฝนตกไม่มากนัก มีน้ำท่วมขังถนนสายเชียงราย – เชียงใหม่ แนวโน้มระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังชุมชน และพื้นที่การเกษตรบางส่วน บริเวณตำบลแม่เจดีย์ใหม่ อำเภอเวียงป่าเป้า

ด้านจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานชลประทานที่ 1 ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง บริเวณหมู่บ้านเชียงใหม่การ์เด้น และติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ที่หมู่บ้านธีราพร ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติประมาณวันที่ 5 ส.ค. 63 นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้นำเครื่องจักรหนักเข้าดำเนินการเปิดทางน้ำระบายในลำน้ำกวงให้กว้างขึ้นและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเร่งการระบายน้ำ อีกทั้ง ร่วมกับเทศบาลสันทรายหลวง ลงพื้นที่เพื่อพิจารณากำหนดจุดสูบน้ำเพิ่มเติมบริเวณที่มีความเสี่ยงและพื้นที่ต่ำสุด ด้านจังหวัดลำปาง โครงการชลประทานลำปางได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำ จำนวน 16 เครื่อง รถบรรทุกน้ำจำนวน 1 คัน พร้อมทั้งติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ เนื่องจากยังคงมีปริมาณฝนในพื้นที่ คาดการณ์ว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติในวันนี้ (4 ส.ค.63) หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม        

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เฝ้าระวังอีกจำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน พะเยา เลย กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และขอนแก่น ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และทางสำนักเครื่องจักรกล กรมชลประทาน ได้เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ ไว้พร้อมสำหรับเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยง จำนวนกว่า 55 จุด   

ทั้งนี้ ได้กำชับให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นในพื้นที่ ตลอดจนทำการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย  หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อโครงการชลประทานในพื้นที่ หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 และสามารถติดตามสถานการณ์น้ำได้ทาง http://water.rid.go.th/ และ www.rid.go.th ได้ตลอดเวลา

กรมชลประทาน ข่าว