องค์การสะพานปลาเปิดวิสัยทัศน์ใหม่ พร้อมเดินหน้าพัฒนาทุกโครงการ
ผอ.อสป.โชว์วิสัยทัศน์ ลุยพัฒนาทุกโครงการเต็มกำลัง เพื่อขับเคลื่อนองค์กร อสป.สู่เป้าหมายสร้างผลกำไรเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ย้ำชัด! การระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ใช่ข้ออ้างในการทำงาน ทุกคนต้องลุยแก้ไขปัญหา และช่วยเหลือผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้า แพปลาอย่างเต็มกำลังเพื่อก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
นายปรีดา ยังสุขสถาพร ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา (อสป.) เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์หลังเข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการ อสป. หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า จะเร่งดำเนินการฟื้นฟูกิจการ และทำให้ อสป.มีรายได้ และผลกำไรเติบโตต่อเนื่องทุก ๆ ปี อย่างไรก็ตาม สิ่งแรกที่จะทำก่อน คือ เปลี่ยนวิธีคิด วิธีการทำงานของคนในองค์กร เพื่อให้องค์กรของ อสป.อยู่รอดได้แบบแข็งแรงและมั่นคงในอนาคต
“ยอมรับว่าปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด – 19 คือ อุปสรรคสำคัญในการดำเนินงาน แต่หากทุกคนยังใช้เป็นข้ออ้าง หรือเป็นข้อแก้ตัวในการทำงานทุก ๆ ครั้ง ก็คงไม่ดี ต้องปรับและเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ใช้วิกฤติเป็นโอกาสว่ามีอะไรที่สามารถทำได้บ้าง ซึ่งโดยส่วนตัวผมเชื่อว่า มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เราสามารถทำได้ไม่มากก็น้อย และผมจะไม่ใช้ช่วงเวลาที่มีการระบาดของโรคโควิด -19 เป็นข้ออ้าง แต่จะพยายามหาวิธีที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือและดูแลผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้า แพปลาอย่างใกล้ชิดและเต็มที่ ซึ่งก็อยากให้พนักงานทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน อย่าหยุดนิ่ง อย่านิ่งเฉย เพื่อก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน”
นายปรีดา กล่าวต่อว่า สำหรับการขับเคลื่อนองค์กร ต้องบอกก่อนว่าองค์กรไม่มีตัวตน องค์กรประกอบไปด้วยคน เพราะฉะนั้นการจะนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่เราต้องการได้ ทั้งการฟื้นฟูกิจการ และสร้างผลกำไรเติบโตอย่างยั่งยืน คนต้องเป็นผู้ขับเคลื่อน และทุกคนต้องช่วยกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ถ้าเป้าหมายเป็นนามธรรมก็คือ การทำให้ยั่งยืน อยู่รอด และช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประมงไทยด้วย ถ้าเป้าหมายเป็นรูปธรรมก็คือ กำไร ดังนั้น การเข้ามารับตำแหน่ง ผอ.อสป.ครั้งนี้ ผมจะสานต่องานเก่า และคิดริเริ่มงานใหม่ ๆ ต่อเนื่อง ซึ่งงานเก่าจะไม่ทิ้งและพัฒนาต่อยอดไปเรื่อย ๆ เช่น ตลาดประมงอ่างศิลา จ.ชลบุรี ที่ชูจุดขายเป็น “Fish Marketing Organization” ตลาดปลากลางทะเลแห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ก็พร้อมเดินหน้าพัฒนาต่อ และพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ค้าอย่างเต็มกำลัง ให้สามารถขายสินค้าได้ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ขณะเดียวกันก็จะเริ่มที่การปรับเปลี่ยนองค์กรให้ดูทันสมัยมากขึ้น พร้อมสร้างแบรนด์ “FMO” (FISH MARKETING ORGANIZATION) ซึ่งเป็นชื่อภาษาอังกฤษขององค์การสะพานปลา ให้คนภายนอกรับรู้ในวงกว้างมากขึ้น
ส่วนสำนักงานสะพานปลากรุงเทพ ซอยเจริญกรุง 58 เขตสาทร ที่ขณะนี้ได้ประกาศปิดสถานที่ซื้อขายสัตว์น้ำเป็นการชั่วคราว ไปเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 รวม 13 วัน เพื่อทำความสะอาดและพ่นยาฆ่าเชื้อโรค เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการป้องกันที่ อสป.ให้ความสำคัญและเข้มงวดมาโดยตลอด เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ทั้งนี้ สะพานปลากรุงเทพ มีแผนเปิดให้บริการขายสินค้าหลากหลาย “ตลาดเช้า” ในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย หลังจากที่เปิดขายกลางคืน ตั้งแต่เวลา 23.00 – 06.00 น.มานาน เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนทั่วไป ที่เป็นลูกค้ารายย่อย ที่ต้องการบริโภคอาหารทะเลคุณภาพ สด สะอาด ปลอดภัย ไร้สารฟอร์มาลีน
องค์การสะพานปลา ข่าว