ต้องฉีดสารก่อนขนย้าย

647

กยท. เตือน! กล้ายางจากภาคใต้ต้องฉีดสารเคมีป้องกันกำจัดโรคระบาดก่อนขนย้ายไปพื้นที่อื่น   

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตือนผู้ประกอบการขยายพันธุ์ยางเพื่อการค้าและเกษตรกรผู้ปลูกยาง ระวังการนำเชื้อโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราจากภาคใต้ไปสู่การระบาดในภาคอื่นที่ยังไม่เคยพบการระบาด ดังนั้นก่อนทำการขนย้ายกล้ายางออกจากแปลงเพาะ ต้องฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคตามคำแนะนำอย่างน้อย 2 – 3 ครั้ง

ดร.กฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันได้เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการปลูกยางจึงมีการขนย้ายกล้ายางจำนวนมาก ซึ่งกล้ายางพาราที่ปลูกกันในประเทศไทยส่วนใหญ่มีแหล่งผลิตหลักจากภาคใต้ เช่นจังหวัดตรัง พังงา นครศรีธรรมราช สงขลา กระบี่และสุราษฎร์ธานี เป็นต้น ซึ่งจังหวัดเหล่านี้ประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคใบร่วงชนิดใหม่ในห้วง 2 ปีที่ผ่านมา จากรายงานการศึกษาพบว่าเชื้อรานี้สามารถเข้าทำลายและฝังตัวอยู่ได้ทั้งในใบบนต้น กิ่งก้าน ใบที่ร่วงหล่นบนพื้นดิน รวมถึงพืชอื่นๆ ในสวนยาง

ดร.กฤษดา สังข์สิงห์
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง

เพื่อเป็นการตัดวงจรและจำกัดวงของการแพร่ระบาดจากการขนย้ายกล้ายางเพื่อไปปลูกในพื้นที่อื่น สิ่งที่ผู้ประกอบการขยายพันธุ์ยางเพื่อการค้าและเกษตรกรผู้ปลูกยาง ต้องปฏิบัติคือ ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคอย่างน้อย 2 – 3 ครั้ง ตามอัตราแนะนำในฉลาก ทุก 3 – 5 วันไม่ว่าจะเป็นการผลิตกล้ายางชำถุง กล้ายางติดตาในถุง หรือต้นกล้าที่ติดตาในแปลง ก่อนถอนหรือขนย้ายออกจากแปลง  เพื่อป้องกันเชื้อโรคติดไปกับกล้ายาง สำหรับสารเคมีที่แนะนำให้ฉีดพ่น เช่น เฮกซาโคนาโซล หรือ ไดฟิโนโคนาโซล หรือ ไซโพรโคนาโซล หรือ โพรพิโคนาโซล หรือ แมนโคเซบ หรือ คาร์เบนดาซิม หรือ โพรพิเนป หรือ คลอโรธาโลนิล ซึ่งอาจเลือกสารใดสารหนึ่งหรือใช้สลับกันก็ได้

การยางเเห่งประเทศไทย ข่าว