เร่งระบายน้ำลุ่มเจ้าพระยา/ป่าสัก

629

กรมชลฯ เร่งระบายน้ำลุ่มเจ้าพระยา/ป่าสัก ช่วยคนริมน้ำ พร้อมเก็บกักน้ำไว้ในฤดูแล้งหน้า

กรมชลประทาน เดินหน้าบริหารจัดการน้ำเพื่อลดผลกระทบของประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ใกล้หมดฤดูฝนแล้ว ย้ำโครงการชลประทานทุกแห่งเก็บกักน้ำเพื่อสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้งที่จะถึงนี้ให้ได้มากที่สุด

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสักว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำที่ไหลหลากมาจากทางตอนบนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและป่าสักลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน ยังคงเดินหน้าใช้อาคารชลประทานจัดจราจรทางน้ำ และเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเล ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

สำหรับสถานการณ์ในลุ่มน้ำป่าสัก ปัจจุบัน (26 ต.ค. 64) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีการระบายน้ำอยู่ที่ 525 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเริ่มลดลงจากเมื่อวานนี้อย่างต่อเนื่อง ดังนี้

  • อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ระดับน้ำลดลง 56 เซนติเมตร
  • อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ระดับน้ำลดลง 23 เซนติเมตร
  • อ.เมืองสระบุรี ระดับน้ำลดลง 16 เซนติเมตร
  • อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำลดลง 8 เซนติเมตร

ด้านเขื่อนพระรามหก ได้ควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่าน 763 ลบ.ม./วินาที มีแนวโน้มลดลง ขณะเดียวกันได้ทำการปรับการรับน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์ตามศักยภาพของคลอง โดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ริมคลอง  ทั้งยังช่วยแบ่งเบาปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่ จ.พระนครศรีอยุธยา ให้มากที่สุด

ส่วนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา สถานีวัดน้ำท่า C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,513 ลบ.ม./วินาที  แนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ก่อนไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ซึ่งมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,648 ลบ.ม./วินาที แนมโน้มเริ่มทรงตัว ในขณะที่ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาบางจุดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากยังคงมีน้ำท่าในพื้นที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่

  • อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ระดับน้ำลดลง 10 เซนติเมตร
  • อ.เมือง จ.อ่างทอง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 7 เซนติเมตร
  • อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร

ในขณะที่คลองชัยนาท-ป่าสัก ยังคงการรับน้ำที่ประตูน้ำมโนรมย์ในอัตรา 120 ลบ.ม./วินาที

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงเฝ้าระวังสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วงวันที่ 27 – 31 ตุลาคม 2564 ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับในช่วงวันที่ 27 – 29 ต.ค. 64 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนล่างและเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศกัมพูชา ส่งผลทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิดจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อโครงการชลประทานทุกแห่ง หรือ โทรสายด่วนชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา

กรมชลประทาน ข่าว